top of page

       ศัพท์ใหม่วัยรุ่นไทย มุ้งมิ้ง ฟรุ้งฟริ้ง กันไปตามกระแส โดยเฉพาะศัพท์แสลงใหม่ๆ ที่มักจะผุดขึ้นมาไม่เว้นแต่ละวัน งานนี้ Life on campus ขอโชว์เหนือ…ด้วยการแปลงคำศัพท์จี๊ดๆ ของวัยรุ่นไทย มาเป็นภาษาอังกฤษไม่ว่าจะกาก เกรียน เนียน แถ หรือแม้แต่ เช็คเรตติ้ง ฝรั่งเขาใช้ยังไงไปชมกันเลย…
       
       
1. กาก
       
        “กาก” คำนี้ถ้าแปลตรงตัวจะหมายถึง 
“ของเหลือ” ในภาษาอังกฤษจะใช้คำว่า “scum” ที่แปลว่า คราบ และถ้าจะใช้เป็นคำแสลงในการต่อว่าผู้อื่นว่าเป็นคนไม่ดี เราจะพูดว่า You’re a scum bag. หรือ You’re a dirtbag. เป็นคำพูดที่ไม่เพราะเท่าไหร่ และถ้าจะหมายถึงคำว่า “กาก” คำแสลงที่วัยรุ่นนิยมใช้กันในปัจจุบันที่หมายถึง ของไม่ดี, คุณภาพต่ำ เช่น เราซื้อโน้ตบุคมาเครื่องหนึ่งแต่ใช้ไปแล้วไม่ค่อยดี เสียบ่อย อยากจะบอกว่าโน้ตบุคเครื่องนี้กากมาก เราจะใช้คำว่า sucky หรือ ghetto ที่แปลว่า สลัม แต่ใช้เป็นคำคุณศัพท์ได้ เช่น This new notebook that I just bought is so ghetto.
       
        คำอื่นๆ ที่หมายถึง 
"กาก" ได้อีกเช่น crappy, crummy และ lousy ซึ่งก็ไม่ได้ถือว่าเป็นคำหยาบมาก สามารถนำไปใช้กับเพื่อนสนิทได้ หรือคำว่า"subpar" ที่แปลว่า ไม่ถึงมาตรฐาน, ต่ำกว่ามาตรฐาน เช่น ทีวีเครื่องเก่าที่บ้านเริ่มใช้การไม่ได้แล้ว…It’s subpar., It’s ghetto., It’s crappy., It’s crummy., It’s lousy. เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถใช้แทนคำศัพท์แสลงที่แปลว่ากากได้
       
      
 2. เกรียน 
       
        คำฮิตติดปากวัยรุ่นไทยอย่างคำว่า
 “เกรียน” ในภาษาอังกฤษจะใช้คำว่า “troll” ที่เป็นได้ทั้งคำนามและคำกริยา เช่น ถ้าเราไปเจอคนมาเกรียนในเฟสบุคของเรา จะพูดว่า “This guy was trolling on my Facebook page.” หรือ “This guy is a troll” ผู้ชายคนนี้เป็นเด็กเกรียน หรือ Go away troll!!! ไปไกลๆ เลยเด็กเกรียน นั่นเอง
       
       
3. ทำเนียน
       
        แหมๆๆๆ ทำเป็นเนียน…คำที่เรามักได้ยินบ่อยๆ คำไทย 
“เนียน” ที่หมายถึง “ทำตัวกลมกลืนไปกับเหตุการณ์ หรือสถานการณ์ต่างๆ” จะมีคำศัพท์หรือประโยคที่พูดในภาษาอังกฤษโดยจะใช้คำว่า “blend in” เช่น She’s trying to blend in with those people. หล่อนพยายามทำเนียนไปกับคนพวกนั้น.
       
      
 4. แถ, พูดไปเรื่อย
       
        
“แถ” ที่หมายถึงการพูดไปเรื่อย โต้เถียงอย่างไร้เหตุผล คำศัพท์ในภาษาอังกฤษจะใช้คำว่า “Aimlessly”  เช่น Talk aimlessly แปลว่า พูดอย่างไม่มีจุดหมาย พูดไปเรื่อย แถ นั่นเอง หรือคำว่า “Ramble” ที่แปลว่า พูดไปเรื่อย เช่นกัน และถ้าจะบอกว่า “เลิกแถ” ได้แล้วจะพูดว่า Quit your rambling! หรือ Could your quit rambling, plese?
       
       
5. ติงต๊อง, บ๊อง
       
        เรามักว่าเพื่อนสนิทหรือคนใกล้ชิดว่า 
“เธอหนะติงต๊องจริงๆ!!!” หยิกแกมหยอกกันในเชิงความหมายน่ารักๆ และในภาษาอังกฤษคำที่มีความหมายใกล้เคียงกับคำว่า “ติงต๊อง” ก็มีอยู่ด้วยกันหลายคำเช่น goofy ที่หมายถึงตัวการ์ตูน แต่สามารถเอามาใช้เป็นคำแสลงได้เช่น You’re goofy. หรือ You’re a goof. อีกคำที่มีความหมายคล้ายกันก็คือ “dork” เช่น You’re a dork. หรือ You’re so dorky. ซึ่งทั้งสองคำนี้แนะนำให้ใช้กับเพื่อนสนิทเท่านั้น 
       
        อีกคำที่มีความหมายใกล้เคียงกับติงต๊องนั่นก็คือ 
“บ๊อง” ซึ่งก็มีความหมายในภาษาอังกฤษอีกเช่นกัน คือคำว่า “wacky” และ “crazy” เช่น You are being so wacky. หรือ You’re acting so crazy. เธอทำตัวบ้าบอๆ บ๊องๆ นั่นเอง.
       
      
 6. เจ๋ง
       
        เจ๋งหวะ…ที่วัยรุ่นไทยมักพูดบ่อย มีคำแสลงที่เป็นภาษาอังกฤษหลายคำมาก อย่างคำแรกที่เราใช้บ่อยนั่นก็คือ 
“Cool” (คูโอ็ล) ซึ่งความหมายที่แท้จริงจะแปลว่า “เย็น” แต่สามารถใช้เป็นคำแสลงว่า “เจ๋ง หรือ เท่” ได้ เช่น That is a cool bicycle. จักรยานคันนั้นเจ๋งมาก และอีกหนึ่งคำที่แปลว่า “เจ๋ง” ได้เหมือนกันนั่นก็คือคำว่า “sweet” มีความหมายว่า “หวาน” แต่ทุกวันนี้เริ่มมีการใช้คำว่า Sweet มาเป็นคำสแลงที่แปลว่า “เจ๋ง, เท่” เช่น That movie was sweet! หนังเรื่องนั้นเจ๋งมากเลย
       
        หรืออีกหนึ่งคำที่วัยรุ่นสมัยใหม่นิยมใช้กันแทนคำว่า 
“cool" นั่นก็คือคำว่า “sick” ที่แปลว่า “ป่วย” แต่ในความหมายของคำสแลงก็แปลว่าเจ๋งได้เช่นกัน เช่น That is a sick hair do. แปลว่า ทรงผมนั้นเจ๋งมากเลย อีกคำหนึ่งที่ใช้บ่อยมากเลยนั่นก็คือ “awesome” (ออซัม) ที่แปลว่า “ยอดเยี่ยม” เช่น That vacation was so awesome! การไปเที่ยวครั้งนั้นยอดเยี่ยมมาก
       
       
       
7. เช็คเรตติ้ง
       
        คำนี้ในภาษาอังกฤษถ้าแปลตรงตัวก็จะใช้ว่า 
“Check rating” แต่ถ้าจะบอกว่า “ฉันจะไปเช็คเรตติ้ง” จะไม่ใช้ประโยคว่า “I’m going to go check my rating” ฝรั่งอาจจะงง ดังนั้นคำว่าฉันจะไปเช็คเรตติ้ง ที่ถูกต้องก็คือ “I’m going to check to see how popular I am”
       
       
       
8. แรงอ่ะ (แรงส์)
       
        
“แรงส์” คำนี้หมายถึงเวลาที่เราจะพูดเหน็บแนมใครบางคนโดยใช้คำว่า “แรงส์” ที่หมายถึงคำอุทาน ในภาษาอังกฤษจะใช้คำว่า “harsh” (ฮอเออรช) ถ้าเราจะพูดว่า สิ่งที่คุณพูดเมื่อสักครู่นี้ มันแรง จะใช้ว่า It’s was so harsh! หรือ That was harsh! และถ้าเป็นคำพูดที่แรงมากๆ เสียดสีมาก ทำให้อีกฝ่ายหนึ่งเจ็บมากๆ เราจะใช้คำว่า “brutal” เช่น That was so brutal., You shouldn’t have said that. มันแรงส์มากนะ คุณไม่ควรพูดแบบนั้น.
       
       
9. ฟิน…มากมาก
       
       คำว่า 
“ฟิน” ถูกใช้แพร่หลายมากในกลุ่มวัยรุ่น รวมถึงในรายการทีวี ละคร และ Social Network ในที่นี้ความหมายของคำว่า ฟิน (FIN) สามารถแปลได้ 2 ความหมายคือ “ฟิน” ที่มาจากภาษาอังกฤษที่แปลว่า “finish” เสร็จ สมบูรณ์ หรืออาจเพี้ยนมาจากคำว่า “เสร็จ” ที่มาจากการมีเพศสัมพันธ์ได้อีกด้วย เช่น หลังจากมีเพศสัมพันธ์เสร็จแล้ว มีอารมณ์สุดยอด อีกความหมายหนึ่งคือ “ฟิน” ที่มาจากศัพท์ภาษาอังกฤษว่า “finale” แปลว่า การจบของการแสดง, ตอนสุดท้าย, ฉากจบ หมายถึงว่า มีความสุข มันสุดยอดมาก เช่น I’m finished no more for me. I’m good.
       
       
    
    10. ขโมยซีน, แย่งซีน
       
        ถ้าแปลตรงตัวจะใช้ประโยคว่า 
“Steal the scene” จะใช้ในความหมายของการแสดงที่มีนักแสดงที่โดดเด่นมาก การแสดงของเขาสุดยอด ดึงดูดความสนใจจากคนอื่นๆ บนเวที จะใช้ว่า She stole the scene in the play. แต่ถ้าเป็นขโมยซีน หรือ แย่งซีน ในความหมายเหน็บแนมนิดๆ กับคนที่ทำตัวให้โดดเด่นกว่าคนอื่น กรณีนี้จะใช้คำว่า “steal somebody’s thunder (ฟ้าร้อง)” เช่น Don’t steal my thunder. Quit trying to steal my thunder. หรือจะใช้คำว่า “spotlight” แทนความหมายของการขโมยซีนได้เช่นกัน “to steal the spotlight”

bottom of page